สงครามกินเวลายาวนานและความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงมักจะทิ้งร่องรอยอันเจ็บปวดไว้บนประวัติศาสตร์ของชาติต่างๆ และในกรณีของเอธิโอเปียและเอริเทรีย สงครามระหว่างประเทศที่กินเวลายาวนานสองทศวรรษได้สร้างกำแพงแห่งความไม่ไว้วางใจระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน
หลังจากการแยกตัวของเอริเทรียจากเอธิโอเปียในปี 2536 ความตึงเครียดก็เริ่มสะสมขึ้นและกลายเป็นสงครามบอร์เดอร์ที่กินเวลายาวนานซึ่งกินเวลาตั้งแต่ปี 2541 ถึง 2547 สงครามครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตนับพัน และทั้งสองประเทศจมอยู่ในความยากจนและความย่ำแย่
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเจรจาเพื่อสันติภาพดำเนินไปอย่างช้าๆ และล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาพื้นฐานระหว่างเอธิโอเปียและเอริเทรีย อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 มีการเกิดขึ้นของเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงทิศทางของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
ในเดือนกรกฎาคม 2561 นายหัวข้อ Hailemariam Desalegn อดีตนายกรัฐมนตรีของเอธิโอเปีย ซึ่งลาออกจากตำแหน่งในปี 2560 ได้รับรางวัล Sakharov Prize จากสหภาพยุโรปสำหรับความพยายามของเขาในการส่งเสริมการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยและความยุติธรรม
หลังจากการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี Hailemariam ได้อุทิศตนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเอธิโอเปียและเอริเทรีย และเป็นผู้สนับสนุนการไกล่เกลี่ยอย่างแข็งขัน
การมาถึงของ Abiy Ahmed Ali ในฐานะนายกรัฐมนตรีเอธิโอเปียในเดือนเมษายน 2561 นำไปสู่ความหวังใหม่สำหรับสันติภาพ หลังจากดำรงตำแหน่งไม่นาน Abiy ก็เริ่มแสดงความปรารถนาที่จะยุติความขัดแย้งที่ยาวนานระหว่างสองประเทศ
หลังจากการประชุมหลายครั้ง และการเจรจาอย่างลับๆ ระหว่าง Abiy Ahmed Ali และ Isaias Afwerki ประธานาธิบดีเอริเทรีย การประ会导致สันติภาพและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างสองประเทศ
วันที่ 8 กรกฎาคม 2561 Abiy Ahmed Ali เดินทางไปยัง Asmara เมืองหลวงของเอริเทรีย และพบกับ Isaias Afwerki
การเยือนครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี ที่ผู้นำจากเอธิโอเปียและเอริเทรียได้พบกัน
เมื่อ Abiy Ahmed Ali และ Isaias Afwerki สวัสดีกันอย่างอบอุ่น การนัดหมายก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภูมิภาค
หลังจากการประชุมซึ่งดำเนินไปอย่างลับๆ นานหลายเดือน Hailemariam Desalegn ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำหน้าที่เป็นหัวหอกในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างสองประเทศ ได้รับรางวัล Sakharov Prize จากสหภาพยุโรป
การเจริญรอยตามของ Abiy Ahmed Ali ถือเป็นสัญญาณบวกอย่างยิ่งสำหรับภูมิภาค
ความสำเร็จในการยุติสงครามที่กินเวลายาวนานระหว่างเอธิโอเปียและเอริเทรียทำให้ทั้งสองประเทศสามารถมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้
นอกจากนี้ การไกล่เกลี่ยยังสร้างความหวังสำหรับความสงบและความมั่นคงในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก
2018 Ethiopian-Eritrean Summit: A Historic Moment For Peace and Reconciliation
การพบกันของ Abiy Ahmed Ali และ Isaias Afwerki ในเดือนกรกฎาคม 2561 เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของเอธิโอเปียและเอริเทรีย การยุติความขัดแย้งที่ยาวนานทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับความร่วมมือและการพัฒนา
ตารางด้านล่างแสดงให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกที่เกิดขึ้นหลังจากการลงนามในข้อตกลงสันติภาพ:
ผลกระทบ | รายละเอียด |
---|---|
การเปิดพรมแดน | หลังจากปิดมานานกว่า 20 ปี พรมแดนระหว่างเอธิโอเปียและเอริเทรียถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง |
การค้าและการลงทุน | ความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรมากขึ้นส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ |
การท่องเที่ยว | เอริเทรียเริ่มต้อนรับนักท่องเที่ยวจากเอธิโอเปียและส่วนอื่นๆ ของโลก |
ความร่วมมือทางด้านมนุษยธรรม | ช่วยเหลือกันและกันในด้านมนุษยธรรม และการจัดหาความช่วยเหลือเพื่อประชาชน |
การไกล่เกลี่ยระหว่างเอธิโอเปียและเอริเทรียเป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมของความสามารถในการเอาชนะความขัดแย้งอันยาวนาน
การผสานพลังของ Hailemariam Desalegn และ Abiy Ahmed Ali ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณของมนุษย์และความปรารถนาที่จะสร้างสันติภาพ
ความสำเร็จครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบไปทั่วภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก
การเจรจาก็เป็นการเตือนใจให้เราทุกคนว่าแม้จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่ใหญ่หลวง การไกล่เกลี่ยและความเข้าใจสามารถนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาวได้