การชุมนุมเดือนมิดริส 2018: การต่อต้านระบอบเผด็จการและความหวังสำหรับประชาธิปไตยในเอธิโอเปีย

การชุมนุมเดือนมิดริส 2018: การต่อต้านระบอบเผด็จการและความหวังสำหรับประชาธิปไตยในเอธิโอเปีย

เหตุการณ์การชุมนุมเดือนมิถุนายน 2018 ในเอธิโอเปีย เป็นช่วงเวลาที่สำคัญของประวัติศาสตร์ชาติ ที่ชาวเอธิโอเปียนจากทั่วทุกสารทิศได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมอย่างล้ำลึก การชุมนุมนี้เกิดขึ้นหลังจากหลายปีของความไม่พอใจต่อระบอบเผด็จการที่นำโดยพรรคประชาธิปไตยประชาชนเอธิโอเปีย (EPRDF) ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าขาดความโปร่งใสและละเมิดสิทธิมนุษยชน

มีสาเหตุสำคัญหลายประการที่ทำให้เกิดการชุมนุมเดือนมิถุนายน 2018 ประการแรก การกดขี่ทางการเมืองอย่างต่อเนื่องจากรัฐบาล EPRDF ที่ห้ามปรามพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม สื่ออิสระ และองค์กรสังคมพลเรือน ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเสียงของตนไม่ได้รับการยินยอม

นอกจากนั้น เศรษฐกิจเอธิโอเปียก็ยังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ อัตราเงินเฟ้อสูงและการว่างงานเพิ่มขึ้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาว

ด้วยเหตุนี้ การชุมนุมเดือนมิถุนายน 2018 จึงได้จุดชนวนจากการที่เยาวชนชาวเอธิโอเปีย ซึ่งเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่เป็นธรรม ได้ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล EPRDF

แกนนำของการชุมนุมครั้งนี้เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวที่เรียกตัวเองว่า “Qerro” ซึ่งเป็นภาษา Oromo หมายถึง “เยาวชน” พวกเขาใช้สื่อสังคมออนไลน์และการชุมนุมสาธารณะเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล EPRDF ลาออก

การชุมนุมเดือนมิถุนายน 2018 มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยมีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจ นอกจากนั้น ยังเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้และการทำลายทรัพย์สินสาธารณะขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม การชุมนุมครั้งนี้ก็ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญในเอธิโอเปีย ในเดือนเมษายน 2018 นายกรัฐมนตรี Hailemariam Desalegn ซึ่งเป็นผู้นำ EPRDF ได้ลาออกจากตำแหน่ง

รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของ Abiy Ahmed Ali ได้ดำเนินนโยบายปฏิรูปอย่างกว้างขวางรวมถึง:

  • การปล่อยนักโทษทางการเมือง

  • การเปิดช่องให้มีการถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล

  • การแก้ไขกฎหมายที่จำกัดสิทธิพลเมือง

  • และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้าน

ผลกระทบระยะยาวของการชุมนุมเดือนมิถุนายน 2018

การชุมนุมเดือนมิถุนายน 2018 เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในประวัติศาสตร์เอธิโอเปีย หลังจากหลายปีของการปกครองแบบเผด็จการ ประชาชนชาวเอธิโอเปียได้แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและความมุ่งมั่นในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

อย่างไรก็ตาม ยังคงมี चुनौติมากมายที่ประเทศต้องเผชิญ รวมถึง:

  • การสร้างความไว้วางใจระหว่างรัฐบาลกับประชาชน

  • การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม

  • และการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย

แม้ว่าจะมีความท้าทาย แต่การชุมนุมเดือนมิถุนายน 2018 ก็ได้จุดประกายความหวังให้แก่ชาวเอธิโอเปีย

บทบาทของ Zeresenay Alemseged ในการปฏิวัติการเมืองในเอธิโอเปีย

Zeresenay Alemseged เป็นนักเคลื่อนไหวและนักเขียนชาวเอธิโอเปียนที่มีบทบาทสำคัญในการต่อต้านระบอบเผด็จการ และเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศ

Alemseged เป็นผู้ก่อตั้ง “Ethiopian Human Rights League” (EHRL) องค์กรที่ทำงานเพื่อปกป้องสิทธิของประชาชนชาวเอธิโอเปีย EHRL ได้ทำหน้าที่ในการเปิดเผยการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยรัฐบาล EPRDF และสนับสนุนผู้ถูกข่มเหง

นอกจากนั้น Alemseged ยังเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียง ซึ่งผลงานของเขาได้ให้ภาพสะท้อนถึงความอยุติธรรมทางการเมืองและสังคมในเอธิโอเปีย

Alemseged ได้รับรางวัลมากมายสำหรับผลงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมถึงรางวัล “Martin Ennals Award for Human Rights Defenders” ซึ่งเป็นรางวัลที่ให้แก่ผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนทั่วโลก

Alemseged เป็นตัวอย่างของความกล้าหาญและการอุทิศตนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และปกป้องสิทธิของประชาชน

สรุป

การชุมนุมเดือนมิถุนายน 2018 เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์เอธิโอเปีย ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างลึกซึ้ง

Zeresenay Alemseged และผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนคนอื่นๆ ได้ทำหน้าที่ในการเปิดเผยความอยุติธรรม และเรียกร้องให้รัฐบาลเคารพสิทธิของประชาชน